บทความที่ได้รับความนิยม

Past Continuous Tense

Past Continuous Tense


Past Continuous Tense /Progressive Tense   อดีตกาลกำลังดำเนินอยู่แล้ว คือ การกระทำได้ดำเนินอยู่ช่วงเวลาหนึ่งในอดีต
พอเห็นคำว่า Continuous ในชื่อก็รู้แล้วว่าต้องมี Verb to be ตัวใดตัวหนึ่ง ตามด้วยกริยาเติม ing อยู่ในประโยคแน่นอน เพราะสองสิ่งนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญอันจะขาดไม่ได้ในความเป็น Past Continuous Tense และคำว่า Past ก็เป็นตัวกำหนดว่า Verb to be ใน Tense นี้ จะต้องเป็นกริยาช่อง 2 อันได้แก่ was หรือ were ตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับประธานของประโยค (Subject) ว่าเป็นตัวใด                                                                       
  •    ถ้าประธานเป็น I, He, She, It, สุชาติ, สมศรี หรือว่าบักจ่อย คนใดคนหนึ่งกริยาที่ใช้จะเป็น was                  
  •    ถ้าประธานเป็น We, You, They, อังคณากับชาลีรวมกัน กริยาที่ใช้ก็จะเป็น were                             

Tense นี้มีลักษณะพื้นฐานหรือธรรมชาติที่เหมือนกับ Present Continuous ข้อแตกต่างประการเดียวระหว่างสอง Tense นี้ก็คือ ใน Present Continuous เวลาที่อ้างถึงซึ่งเป็นฉากของเหตุการณ์เป็นเวลาในปัจจุบัน แต่ใน Past Continuous เวลาที่อ้างถึงเป็นฉากในอดีต


รูปแบบของ Past Continuous Tense


Subject + was/were + V-ing



เอกพจน์

พหุพจน์


ประโยคบอกเล่า
( ประธาน + was  + กริยาช่องที่ 1 เติม ing )
I/she/he/it was reading.
I/she/he was reading news.
He was studying in the class room all day last week. เขาได้กำลังศึกษาในห้องเรียนตลอดทั้งวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
I was playing football at 4 pm. yesterday.  ฉันกำลังเล่นฟุตบอลตอน 4 โมงเย็นเมื่อวานนี้
She was watching TV at 6 pm. yesterday. เธอกำลังดูโทรทัศน์ตอน 6 โมงเย็นเมื่อวานนี้


ประโยคบอกเล่า
( ประธาน + were + กริยาช่องที่ 1 เติม ing )
You/we/they were reading.
They were reading.
They were studying in the class room all day last week. พวกเขาได้กำลังศึกษาในห้องเรียนตลอดทั้งวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
They were studying English at 9 am. yesterday.  พวกเขากำลังเรียนภาษาอังกฤษตอน 9 โมงเช้าเมื่อวานนี้

ประโยค ปฏิเสธเอกพจน์

เมื่อต้องการแต่งประโยค Past Continuous Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธให้นำ not มาเติมหลัง Verb to be   ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้

โครงสร้าง: Subject + was, were + not + Verb1 ing.

( ประธาน + was + not + กริยาช่องที่ 1 เติม ing)
I/she/he/it wasn’t reading.
I/she/he wasn’t reading news.
He wasn’t studying in the class room all day last week. เขาไม่ได้กำลังศึกษาในห้องเรียนตลอดทั้งวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
 I was not playing football at 4 pm. yesterday.ฉันไม่ได้กำลังเล่นฟุตบอลตอน 4 โมงเย็นวานนี้
She was not watching TV at 6 pm. yesterday.เธอไม่ได้กำลังดูโทรทัศน์ตอน 6 โมงเย็นเมื่อวานนี้ 


ประโยค ปฏิเสธพหุพจน์
 ( ประธาน + were + not + กริยาช่องที่ 1 เติม ing )
You/we/they weren’t reading.
They weren’t reading.
They weren’t studying in the class room all day last week. เขาไม่ได้กำลังศึกษาในห้องเรียนตลอดทั้งวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
They were not studying English at 9 am. yesterday.พวกเขาไม่ได้กำลังเรียนภาษาอังกฤษตอน 9 โมงเช้าเมื่อวานนี้
We were not playing football at 4 pm. yesterday.พวกเราไม่ได้กำลังเล่นฟุตบอลตอน 4 โมงเย็นวานนี้


ประโยคคำถามเอกพจน์
       (Was+ ประธาน + กริยาช่อง 1 เติม ing? )
Was she/he/it reading?
Was I/ she/he reading news?
Was he studying in the class room all day last week? เขาได้กำลังศึกษาในห้องเรียนตลอดทั้งวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือ
 รูปคำถามและการตอบ
 Was she watching TV at 6 pm. yesterday ? หล่อนกำลังดูโทรทัศน์ตอน 6 โมงเย็นวานนี้ใช่หรือไม่
- Yes, she was.  ใช่หล่อนกำลังดูโทรทัศน์
- No, she wasn’t. ไม่หล่อนไม่ได้กำลังดูโทรทัศน์



ประโยคคำถามพหูพจน์
    (Were + ประธาน + กริยาช่อง 1 เติม ing? )
Were you/we/they reading?
Were they reading news?
Were they studying in the class room all day last week? เขาได้กำลังศึกษาในห้องเรียนตลอดทั้งวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือ
 รูปคำถามและการตอบ
Were they studying English at 9 am. yesterday ?พวกเขากำลังเรียนภาษาอังกฤษตอน 9 โมงเช้าวานนี้ใช่หรือไม่
- Yes, they were.  ใช่พวกเขากำลังเรียน
- No, they weren’t.  ไม่เขาทั้งหลายไม่ได้กำลังเรียน



บางคนอาจจะสงสัยว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น จะเป็นอดีตได้อย่างไร เราจะยกตัวอย่างมาให้ศึกษา คือ  While I was sleeping last night, someone entered my bedroom.   เมื่อคืนขณะที่ฉันกำลังหลับอยู่ มีคนเข้ามาในห้อง
เห็นได้ชัดว่าในภาษาไทยเองก็มี past continuous tense   การใช้ past continuous tense ในภาษาอังกฤษก็ไม่ต่างจากภาษาไทยโดยมีการใช้ดังต่อไปนี้ใช้ past continuous tense เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต เพื่อบอกว่าช่วงที่เหตุการณ์นั้นกำลังเกิดขึ้น ก็มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นแทรกเข้ามา  เหตุการณ์ที่เกิดแทรกเข้ามาจะใช้ past simple  ดังนั้นเหตุการณ์ที่ใช้ past continuous tense จะเป็นเหตุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน เช่นตัวอย่างประโยคข้างต้น เหตุการณ์ "ผมกำลังหลับอยู่" จะเกิดขึ้นก่อน และ เหตุการณ์ "มีคนเข้ามาในห้อง" เป็นเหตุการณ์ที่เกิดที่หลัง  เหตุการณ์ที่เกิดแทรก เข้ามา หรือเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นหลังนี้จะใช้ past simple ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดก่อน(กำลังเกิดขึ้น) จะใช้ past continuous tense

หลักการใช้ Past Continuous Tense

   1. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต
It was raining heavily all day yesterday. ฝนได้ตกหนักตลอดทั้งวัน เมื่อวานนี้
I was reading a book at this time yesterday. เวลานี้เมื่อวานฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่
We were having dinner when it started to rain. พวกเรากำลังกินอาหารเย็นอยู่เมื่อฝนเริ่มตก
I was taking a shower at eight o’clock last night. ฉันกำลังอาบน้ำอยู่เมื่อวานตอนสองทุ่ม
   2. ใช้กับเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องพร้อมกันสองเหตุการณ์ในอดีต กล่าวคือ มีเหตุการณ์อันหนึ่งเกิดขึ้นและกำลังดำเนินไปอยู่ก่อนและแล้วมีเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นมา มีหลักการแต่งประโยคดังนี้
เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นและดำเนินอยู่ จะใช้ Past Continuous Tense หตุการณ์สั้นๆนั้นได้เข้ามาแทรก จะใช้ Past Simple Tense
I met you boyfriend in the park while I was jogging. ฉันเจอแฟนคุณในสวนตอนฉันกำลังวิ่งอยู่
While he was walking along the street, he saw an accident. ขณะที่เขากำลังเดินไปตามถนนเขาเห็นอุบัติเหตุ
I was taking a bath when the telephone rang. ฉันกำลังอาบน้ำอยู่เมื่อโทรศัพท์มันดัง

   3.  ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่พร้อมกันในอดีต เช่น
                He was standing while she was sitting. เขากำลังยืนในขณะที่หล่อนกำลังนั่ง
               I was sleeping while the teacher was teaching, ฉันนอนหลับขณะที่คุณครูกำลังสอนอยู่
                I was working in the garden while my wife was making dinner. ผมกำลังทำงานในสวน ขณะที่ภรรยากำลังทำอาหารเย็น
                While Suda was reading, Somsal was watching television. ขณะที่สุดาอ่านหนังสือ สมศักดิ์ดูโทรทัศน์
                Were you listening while he was talking? คุณกำลังฟังในขณะที่เขากำลังพูดหรือเปล่า
               I wasn't paying attention while I was writing the letter, so I made several mistakes. ตอนที่เขียนจดหมาดไม่ค่อยได้เอาใจใส่เท่าไหร่ ก็เลยทำผิดไปหลายแห่ง
                They were eating and discussing their plan. เขากำลังกินอาหารและวางแผนไปด้วย
   
การใช้ When และ While ใน Past Continuous Tense
When ใช้กับ Past Simple, While ใช้กับ Past continuous ตัวอย่างประโยค เช่น
                I was studying when she called. ผมกำลังเรียนอยู่ตอนที่เธอโทรมา
                I saw the accident while I was waiting for the bus. ฉันได้พบเห็นอุบัติเหตุขณะที่ฉันกำลังรอคอยรถประจำทางแล้ว
I was waiting for the bus when I saw the accident. ฉันกำลังรอคอยรถประจำทางแล้วขณะนั้นฉันได้พบเห็นอุบัติเหตุ
                    When ใช้แทน While ในขณะที่ While ไม่สามารถใช้แทน When ได้ เช่น
When I saw the accident when I was waiting for the bus. เมื่อฉันได้พบเห็นอุบัติเหตุขณะที่ฉันกำลังรอคอยรถประจำทางแล้ว

การเปรียบเทียบการใช้ Past Continuous กับ Past Simple Tense


Past Continuous Tense

Past Simple Tense

Last Sunday Pok was playing football in the park when he saw James.
อาทิตย์ที่แล้วป๊อกได้กำลังเล่นฟุตบอลในสนามเมื่อเขาได้พบกับเจมส์(บอกเหตุการณ์กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้) เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นทีหลัง

Last Sunday Pok was played football in the park when he saw James.
อาทิตย์ที่แล้วป๊อกได้เล่นฟุตบอลในสนามเมื่อเขาได้พบกับเจมส์(บอกเหตุการณ์กำลังดำเนินอยู่ใน (บอกเหตุการณ์ที่กล่าวขึ้นในอดีต)
The sun was shining. People were sitting under the tree around the park.
พระอาทิตย์กำลังส่องแสงแล้วประชาชนกำลังนั่งใต้ต้นไม้รอบๆสวน (เหตุการณ์สองเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันช่วงหนึ่งในอดีต)

When James left University he went to work for bank after two year.
เมื่อเจมส์ได้ออกจากมหาวิทยาลัยเขาได้ไปทำงานธนาคาร หลังจากนั้นเพียงสองปี (บอกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นแล้วเมื่อเหตุการณ์หนึ่งก็ตามมา)














 .........................................................